วันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ที่มา..ของโลก"มายากล"

วิทยากลในโลกเรานี้ก่อกำเนิดมานานนับพันปี มีผู้พบภาพบนผนังถ้ำ เป็นการแสดงกลด้วยถ้วย 3 ใบและ ยังพบบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับวิทยากลเป็นจำนวนมากกระจัดกระจายตามประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก สันนิษฐานโดยสรุปว่าวิทยากลน่าจะกำเนิดมาจากชาวกรีกโบราณ ค่อยๆ เผยแผ่ไป ในยุโรป และเอเซีย



  จากประวัติความเป็นมาของมายากลที่มีมายาวนาน หากย้อนกลับไปยังเส้นทางมายากลไทยในสมัยต่าง ๆ ชาลี ประจงกิจกุล นักแสดงมายากล เลขาชมรมวิทยากลสยามเมจิกกล่าวว่า มายากลไทยหรือวิทยากลไทยเริ่มเข้ามาในเมืองไทยเมื่อไหร่นั้นไม่มีหลักฐานแน่ ชัด แต่จากที่ศึกษาประวัติศาสตร์เชื่อว่าน่าจะมีมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยามาพร้อม กับการทำการค้ากับชาวต่างชาติ อาทิ โปรตุเกส ฮอลันดา จีนอินเดีย ฯลฯ ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชซึ่งการแสดงครั้งนั้นเป็นกลเสกดอกไม้ หยิบของออกจากกระถาง ฯลฯ
         ต่อจากนั้นมาไม่มีการบันทึกถึงเรื่องราวการแสดงกลอีก กระทั่งมาพบในเอกสารฉบับหนึ่งซึ่งบันทึกว่า มายากลไทยเริ่มมีมาแต่ครั้งสมัยรัชกาลที่ 4 แต่รวมตัวก่อตั้งเป็นสมาคมในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยใช้ชื่อว่า สมาคมนักกลหลวง มีการจัดประกวดวิทยากล ประดิษฐ์อุปกรณ์เล่นกลรวมถึงระบุว่าใครเป็นคนประกวดได้รางวัลอะไร ใครได้ที่หนึ่ง สอง สาม ฯลฯ เช่นเดียวกับการแสดงกลสมัยนั้นเป็นกลอุปกรณ์ กลทางวิทยาศาสตร์ใช้น้ำยาเคมีเปลี่ยนน้ำเปล่าให้เป็นน้ำแดง เบียร์ เสกควันออกจากแก้ว ฯลฯ มากกว่าที่จะใช้ความคล่องแคล่วของมือนำเสนอกล

         จากนั้นมาเรื่องราวของมายากลไทยได้ห่างหายไปจากบันทึกประวัติศาสตร์อีกครั้ง กระทั่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังสงครามโลกสงบลงมีการแสดงกลเข้ามา 3 สายได้แก่ สายอินเดีย จีน และ ยุโรป
         “ในสายอินเดียการแสดงกลมีรูปแบบเป็นกลกลางแปลง เป็นกลที่แสดงในที่โล่ง ไม่มีเวที มีกลยอดนิยมอย่าง กลอับดุล ซึ่งจะให้ผู้ช่วยซึ่งนอนคลุมหน้าตอบคำถามเวลาที่ชี้ไปในกลุ่มผู้ชมอย่างให้ ตอบว่าเป็นชายหรือหญิง ผมสั้นยาวอย่างไร รวมถึงทายเลขและสิ่งของที่ผู้ชมกำไว้ เช่นเดียวกับ กลเสกมะม่วง ซึ่งนำเอาเมล็ดมะม่วงไปปักดิน เอาผ้าคลุมไว้เมื่อเปิดออกแต่ละครั้งต้นมะม่วงก็จะโตขึ้น โตขึ้น กระทั่งเปิดออกครั้งสุดท้ายสามารถตัดผลเอามาให้คนที่มุงดูกินได้สร้างความ ฮือฮามาก ๆ นอกจากนี้ยังมีกลเรียกงู แทงคนในตะกร้าแสดงร่วมด้วยและทุกครั้งที่แสดงจบจะมีการขายสินค้า ขายยาโดยเฉพาะยาปลูกผม ปลูกหนวด ปลูกคิ้ว เป็นต้น

         ขณะที่กลของจีนเรียกว่า กลปาหี่ ก่อนแสดงทุกครั้งจะตีกลอง ฉิ่ง ฉาบ รำมวย รำดาบเรียกผู้ชม มีกลที่มีสีสันอย่างยกเก้าอี้ด้วยดวงตา ค้อนปอนด์ทุบก้อนหินซึ่งวางบนหน้าท้องรวมถึงกลเสกหินให้เป็นกบ ฯลฯ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้ผู้ชมและเมื่อแสดงเสร็จจะขายยา ไม่ว่าจะเป็นยารักษาโรค ยาแก้ปวดฟัน ส่วนกลยุโรปที่เข้ามาเป็นกลที่ไม่เปิดการแสดงเหมือนกลกลางแปลง แต่จะเข้ามาในรูปละครสัตว์มีวิทยากลเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงเท่านั้นและมัก เปิดการ แสดงที่ย่าน วังบูรพา วังสราญรมย์ ฯลฯ สื่อออกไปในแนวอิทธิฤทธิ์ เวทมนตร์ แต่ปัจจุบันแนวคิดเหล่านี้เปลี่ยนไปทั้งในต่างประเทศและไทย”



จากนั้นมามายากลในปัจจุบันก็ เริ่มคลี่คลายมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงหลังสงครามโลกเริ่มมีนักแสดงจากต่างประเทศเข้ามาแสดงในเมืองไทย มีทั้งสิงคโปร์ มาเลเซีย ญี่ปุ่นรวมทั้งฟิลิปปินส์ทำให้คนไทยได้เห็นรูปแบบการแสดงวิทยากลในรูปแบบ การแสดงบนเวที (stage magic) ซึ่งนักแสดงจะสวมใส่ชุดทักซิโด้ หยิบกระต่ายออกจากหมวก เสกนก เสกกระต่าย เสกคนลอย เสกช้างหายเครื่องบินมา ฯลฯ สร้างความพิศวงตื่นใจ

         นอกจากกลเวทียังมีการแสดงกลแบบระยะใกล้ (Close up) ซึ่งเป็นกลที่มีสี สันมีเสน่ห์สร้างความเพลิดเพลินชวนติดตามไม่แพ้กัน กลประเภทนี้ได้แก่ กลเชือก กลไพ่ กลเหรียญฯ สำหรับกลอมตะได้รับการยอมรับตลอดกาลที่ผ่านมามีมากมาย อย่าง ถ้วย 3 ใบ (Cups and ball) ซึ่งมีอุปกรณ์ถ้วย 3 ใบและลูกบอล 3 ลูก เมื่อลูกบอลลูกหนึ่งใส่เข้าไปใต้ถ้วยเมื่อเปิดออกมาลูกบอลจะวิ่งไปอีกที่ และเมื่อเปิดถ้วยพร้อมกันลูกบอลทั้งหมดจะกลายเป็นแอปเปิ้ลบ้าง มะนาวบ้าง ส้มบ้างซึ่งกลนี้เล่นครั้งใดก็ยังคงสร้างความสนุกสนานถือเป็นหนึ่งในกล คลาสสิก
         ที่สำคัญกลชุดนี้ยังเป็นอุปกรณ์กลชิ้นแรกของโลกซึ่งมีผู้พบภาพบนผนังถ้ำ เมื่อ 4,000 กว่าปีที่อียิปต์ เช่นเดียวกับ ชุดห่วงเหล็ก ที่คล้องไปคล้องมา ต้นตำรับจากจีนถือเป็นมายากลคลาสสิกของโลกอีกชุดหนึ่งที่นักวิทยากลจะต้อง แสดงได้ เป็นต้น

         ขณะที่มายากลทั่วโลกมีรูปแบบ โดดเด่นเฉพาะตัว กลในเอเชียก็มีสีสันมี เอกลักษณ์เช่นกัน โดยเฉพาะกลจากจีน อินเดีย พม่า ส่วนมายากลไทยปัจจุบันได้รับการตอบรับเพิ่มมากขึ้น มีนักมายากลจำนวนไม่น้อยที่ไปสร้างชื่อเสียงในต่างประเทศ รวมถึงอุปกรณ์กลที่คนไทยผลิตขึ้นเองที่ผ่านมา ได้สร้างความฮือฮาในแวดวงมายากลต่างแดนโดยเฉพาะที่ประเทศญี่ปุ่น อย่าง บุคส์ ออฟ เมอร์ลิน หนังสือปกแข็งหนาประมาณครึ่งนิ้วเป็นหนังสือบาง ๆ ธรรมดา ๆ แต่พอเปิดออกมาไม่ว่าใส่อะไรลงไปก็จะกลายเป็นสิ่งนั้น เช่นเดียวกับ กระเป๋าเมาเมาวอลเล็ต กระเป๋าพกที่สามารถหยิบของขนาดใหญ่ อย่างแก้วและขวดออกมาได้

         แม้อุปกรณ์กลจะช่วยสร้างสีสัน เติมความสนุกสนานให้กับการแสดง แต่การ แสดงกลไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์เยอะหรือมี อุปกรณ์ราคาแพง อุปกรณ์ที่มีอยู่ทั่วไปสามารถนำมาเล่นกลได้ขอเพียงรู้จักและเข้าใจศาสตร์ แห่งกลซึ่งเป็นการแสดงที่มีศิลปะ มีเสน่ห์ อยู่ที่การทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เสมือนว่าเป็นไปได้ โดยใช้เทคนิคหลากหลายไม่ว่าจะเป็นการซ่อน บัง การแอบหรือการเบนความสนใจ